พุทธรักษาแคระ
พุทธรักษาแคระเป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อนอวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-30 เซนติเมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย
วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
พุทธรักษาแคระ สีแดง
พุทธรักษาแคระ สีแดง
ชื่อสามัญ Dwarf Canna, Indian shoot (ฺSolid Red)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Dwarf Canna generalis
ตระกูล CANNACEAE
ชื่อทางการตลาด พุทธรักษาแคระสีแดง
ลักษณะทั่วไปของพุทรักษาแคระ
พุทธรักษาแคระเป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อนอวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-30 เซนติเมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย ลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้น โตประมาณ 1-3 เซนติเมตร ใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลม ขอบใบเรียบ กลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ้งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อน สลับกัน ขนาดใบกว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น ช่อดอกยาวประมาณ 4-8 เซนติเมตร ประกอบด้วยดอก 8-10 ดอก และมีกลีบดอกบางนิ่ม ขนาดของดอกและสีสรรแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์
การเป็นมงคลต้นพุทธรักษา
คนโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นพุทธรักษาไว้ประจำบ้านจะช่วยคุ้มครอง ป้องกันอันตรายแก่บ้านและผู้อาศัยได้ เพราะพุทธรักษาเป็นพรรณไม้ที่คนโบราณเชื่อว่า มีพระเจ้าคุ้มครองรักษาให้มีความสงบสุข คือเป็นไม้มงคลนั่นเอง
ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูกพุทรักษา
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นพุทธรักษาไว้ทางทิศตะวันตก ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เอาประโยชน์ทั่วไปทางดอกให้ปลูกในวันพุธ
ติดต่อชมสวนพลการ์เด้นได้ที่ 085-121-4994, 085-165-9168 เวลา 08:00 ถึง 18:00 น. ได้ทุกวันครับ !!!
ขอคำแนะนำและวิธีการบำรุงรักษาได้ที่ 087-505-8168 ตลอด 24 ชั่วโมง. !!!
PHON GARDEN
65/18, Moo.4,
Bang Kruai-Jongtanom Road,
Maha Sawat sub-district,
Bang Kruai district,
Nonthaburi province 11130, Thailand.
Mobile : 66(85) 121 4994, 66(85) 165 9168.
Service : 66(87) 505 8168.
Facebook : http://www.facebook.com/pages/พุทธรักษาแคระ/573854229373778
Blogger : http://buddharaksakrae.blogspot.com/
E-Mail : phongarden@gmail.com
วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557
พุทธรักษาแคระ สีเหลือง
พุทธรักษาแคระ สีเหลือง
ชื่อสามัญ Dwarf Canna, Indian shoot (Solid Yellow)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Dwarf Canna generalis
ตระกูล CANNACEAE
ชื่อทางการตลาด พุทธรักษาแคระสีเหลือง
ลักษณะทั่วไปของพุทรักษาแคระ
พุทธรักษาแคระเป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อนอวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-30 เซนติเมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย ลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้นโตประมาณ 1-3 เซนติเมตร ใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลม ขอบใบเรียบ กลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ้งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อนสลับกัน ขนาดใบกว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น ช่อดอกยาวประมาณ 4-8 เซนติเมตร ประกอบด้วยดอก 8-10 ดอก และมีกลีบดอกบางนิ่ม ขนาดของดอกและสีสรรแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์
การเป็นมงคลต้นพุทธรักษา
คนโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นพุทธรักษาไว้ประจำบ้านจะช่วยคุ้มครอง ป้องกันอันตรายแก่บ้านและผู้อาศัยได้ เพราะพุทธรักษาเป็นพรรณไม้ที่คนโบราณเชื่อว่า มีพระเจ้าคุ้มครองรักษาให้มีความสงบสุข คือเป็นไม้มงคลนั่นเอง
ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูกพุทรักษา
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นพุทธรักษาไว้ทางทิศตะวันตก ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เอาประโยชน์ทั่วไปทางดอกให้ปลูกในวันพุธ
ติดต่อชมสวนพลการ์เด้นได้ที่ 085-121-4994, 085-165-9168 เวลา 08:00 ถึง 18:00 น. ได้ทุกวันครับ !!!
ขอคำแนะนำและวิธีการบำรุงรักษาได้ที่ 087-505-8168 ตลอด 24 ชั่วโมง. !!!
PHON GARDEN
65/18, Moo.4,
Bang Kruai-Jongtanom Road,
Maha Sawat sub-district,
Bang Kruai district,
Nonthaburi province 11130, Thailand.
Mobile : 66(85) 121 4994, 66(85) 165 9168.
Service : 66(87) 505 8168.
Facebook : http://www.facebook.com/pages/พุทธรักษาแคระ/573854229373778
E-Mail : phongarden@gmail.com
วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557
พุทธรักษาแคระ สีโอรสลาย
พุทธรักษาแคระ สีโอรสลาย
ชื่อสามัญ Dwarf Canna, Indian shoot (Old Rose Striped Dwarf Canna)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Dwarf Canna generalis
ตระกูล CANNACEAE
ชื่อทางการตลาด พุทธรักษาแคระสีโอรสลายกลีบ
ลักษณะทั่วไปของพุทรักษาแคร
พุทธรักษาแคระเป็นพรรณไม้ล้
การเป็นมงคลต้นพุทธรักษา
คนโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นพุทธรักษาไว้ป
ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปปลูกพ
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านแล
ปล. ที่มาของสีโอรส คำว่า โอลด์โรส เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่
ติดต่อชมสวนพลการ์เด้นได้ที
ขอคำแนะนำและวิธีการบำรุงรั
PHON GARDEN
65/18, Moo.4,
Bang Kruai-Jongtanom Road,
Maha Sawat sub-district,
Bang Kruai district,
Nonthaburi province 11130, Thailand.
Mobile : 66(85) 121 4994, 66(85) 165 9168.
Service : 66(87) 505 8168.
Facebook : http://www.facebook.com/
Facebook : http://www.facebook.com/
Blogger : http://
E-Mail : phongarden@gmail.com
วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556
พุทธรักษา
พุทธรักษา
Common name : Indian shot
Scientific name : Carina indica
Family : Cannaceae
พุทธรักษา มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ และทางอินเดียตะวันตก มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Canna inclica เป็นไม้ประเภทใบเลี้ยงเดี่ยว ลำต้นไม่แข็ง เป็นไม้ดอกที่ขึ้นเป็นกอ แตกหน่อ เช่นเดียวกับกล้วย ลำต้นตรง มีช่อดอกที่ยอด ต้นที่มีช่อดอกแล้วจะไม่มีช่อดอกใหม่ขึ้นมาแทนอีก ความสูงของลำต้นมีตั้งแต่สูง 20 เซนติเมตร ถึงความสูง 2.5 เมตร แล้วแต่ชนิด
สำหรับในประเทศไทย เราจะเห็นพุทธรักษาขึ้นอยู่ทั่วไปในกรุงเทพฯ และตามชนบท ต้นพุทธรักษาจะมีมาในบ้านเมืองเรานานสักเท่าใด ยังไม่มีหลักฐานปรากฎแน่ชัด ทราบแต่เพียงว่าต้นพุทธรักษาได้มีมาในเมืองไทยแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ปี เพราะได้ปรากฎชื่ออยู่ในพระนิพนธ์กาพย์ ห่อโคลงนิราศธารทองแดง ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร ตอนหนึ่งที่ว่า
ไผ่เทศงามผาดผุด
ต้นเล็บครุฑพุทธรักษา
ทองสิบอย่างงามนานา
ข้าวตอกแตกแปลกดอกขาวฯ
ใบ ลักษณะเป็นใบเดี่ยว ๆ คล้ายใบกล้วย แต่สั้นและเล็กกว่าใบกล้วยมาก ปลายใบส่วนมากมักแหลมเป็นรูปหอก มีส่วนน้อยที่ปลายใบกลมหรือปลายใบมน สีของใบมีสีเขียวเป็นส่วนมาก นอกจากสีเขียวมีสีน้ำตาลปนสีแดง มีทั้ง สีอ่อนและสีแก่ และมีอีกสีหนึ่งสีใบเขียว มีเส้นสีขาวไปตามเส้นใบ ต้นนี้มีดอกสีเหลือง
ดอก ออกเป็นช่อ และมีแขนงแตกออกทางด้านข้างทั้งสองข้าง ลักษณะดอกมีกลีบดอก 3 กลีบ และมีปากอีก 1 ปาก กลีบดอกทั้งสามมีขนาดเกือบจะเท่า ๆ กัน ถ้าเราจะเปรียบก็คล้ายกับดอกกล้วยไม้ประเภทแคทลียา ผิดกันที่ว่า แคทลียามีกลีบดอก 5 กลีบ และมีกลีบไม่เท่ากัน มีปาก 1 ปาก เช่นเดียวกัน
สีของดอกพุทธรักษามีตั้งแต่สีขาว สีแดง สีเหลือง สีส้ม สีชมพู และยังมีพื้นสีที่เป็นสีเหลือง มีจุดประหรืออาจเป็นเส้นยาว ๆ สีแดง หรือสีส้ม หรือสีชมพู ส่วนต้นที่เห็นว่าแปลกมากคือ ต้นที่มีดอกสีเหลืองและสีแดงอยู่ในช่อดอกเดียวกัน หรือมีทั้งดอกที่เป็นสีเหลืองครึ่งดอก สีแดงครึ่งดอก หรืออาจจะมีสีเหลืองมาก หรือสีแดงมากน้อยกว่ากันในดอกหรือในช่อดอกเดียวกันก็มี
จำนวนดอกใน 1 ต้น อาจมีตั้งแต่ 5-50 ดอก ยกเว้นบางต้นอาจมีจำนวนดอกมากว่า 50 ดอกใน 1 ช่อ ก็เคยพบ
ขนาดดอกมีตั้งแต่ที่ดอกเล็ก ขนาดไม่ถึงครึ่งนิ้วจนถึงมีขนาดดอกใหญ่กว่า 6 นิ้วฟุตก็มี
ผล มีลักษณะเป็นพู และมีหนามแหลมแต่ไม่แข็ง มีหนามรอบทั้งผล ขนาดของผลประมาณหัวแม่มือ
สีของผล มีอยู่ 2 สี คือ สีเขียว และสีชมพู อมสีเลือดหมู สีอาจอ่อนหรือแก่ได้แล้วแต่พันธุ์
จำนวนเมล็ดใน 1 ผล มีตั้งแต่ 1-8 เมล็ด สีของเมล็ดขณะที่อ่อนอยู่เป็นสีขาว แต่เมื่อแก่ จะเป็นสีน้ำตาล หรือสีน้ำตาลดำ
การขยายพันธุ์ ทำได้ 2 วิธีคือ
1. การเพาะเมล็ด
2. แยกหน่อ
พุทธรักษาอาจใช้เมล็ดขยายพันธุ์ก็ได้ แต่ทั่ว ๆ ไปใช้ปลูกด้วยเมล็ด เมื่อขยายพันธุ์ลูกผสม ที่ผสมพันธุ์ขึ้นใหม่ ๆ เท่านั้น ในการขยายพันธุ์ เพื่อเพิ่มปริมาณจริง ๆ แล้ว ใช้วิธีแบ่งแยกกอ หรือแยกหน่อมากกว่า
การขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดนั้นได้ผลช้ามาก เพราะเมล็ดงอกช้า เนื่องจากเมล็ดพุทธรักษาแข็งมาก ก่อนจะเพาะจึงต้องนำมาแช่น้ำไว้ 24 ชั่วโมง หรือใช้ตะไบถูให้เปลือกบางเสียก่อนจึงนำมาเพาะ
การขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อนั้นง่ายเพียง แต่ขุดและตัดเง่า (rootstock) ให้ติดหน่อที่มีลำต้นเหนือพื้นดินติดมาด้วยอย่างน้อยก็หนึ่งต้น เมื่อตัดหน่อมาแล้วบางชนิดอาจนำลงปลูกในดิน หรือกระถางได้ทันทีเลย แต่บางชนิดอาจต้องนำมาชำในกระบะทรายในที่ร่มให้ตั้งตัวได้เสียพักหนึ่งก่อน จึงนำไปปลูกในที่ ๆ ต้องการกลางแจ้ง
พุทธรักษาทั่ว ๆ ไปที่ปลูกในเมืองไทยนั้นชอบน้ำมาก ขึ้นได้ดีในที่มีน้ำ ที่ลุ่มดินเหนียว ทั่ว ๆ ไป การขยายพันธุ์จึงง่ายมากไม่เคยมีปัญหา ใด ๆ เลย บางชนิดขุดไปทิ้ง ๆ กองไว้ก็แตกหน่อและไม่ยอมตายง่าย ๆ อีกด้วย แต่พุทธรักษาบางชนิดที่เป็นลูกผสมหรือพันธุ์แท้ ชนิดต้น แคระเตี้ยนั้น เจริญเติบโตไม่ได้ดีนักในที่เช่น พุทธรักษาทั่ว ๆ ไปปลูกอยู่ จึงต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ พุทธรักษาพวกลูกผสมหรือพวกพันธุ์แท้นี้ ชอบดินร่วนทราย มีการระบายน้ำดีกลางแจ้ง ไม่ชอบดินเหนียวที่มีน้ำขังอยู่ตลอดเวลา
การเตรียมดินปลูก ฟันดินตากแดดทิ้งไว้เช่นเดียวกับการเตรียมดินเพื่อปลูกผัก หรือปลูกต้นไม้ดอกโดยทั่ว ๆ ไป เมื่อตากดินแห้ง ใส่ปุ๋ย คอกและปุ๋ยอินทรีย์ ย่อยดินให้ละเอียดเพื่อให้ปุ๋ยเข้ากับดินอีกครั้งหนึ่ง ขุดหลุมกว้างประมาณ 6 นิ้ว ความลึกประมาณ 4-5 นิ้วก็พอ ระยะห่างระหว่างแถว 1 เมตร ระหว่างหลุม 60-80 เซ็นติเมตร ระยะปลูกจะถี่หรือห่างกว่านี้ก็ได้ ตามที่เราต้องการใส่ปุ๋ยคอกหลุมละ 1 กอบ พรวนดินให้เข้ากันอีกที แล้วแยกหน่อมาตั้งต้นลงกลางหลุม กลบดินให้แน่นพอควร รดน้ำให้ชุ่มทั้งเช้าเย็น ถ้ามีใบติดต้นมามากตัดใบเสียครึ่งๆใบ เพื่อจะได้ตั้งตัวเร็วขึ้น ถ้าจะทำร่มเงาให้สัก 4-5 วันแรกก็จะยิ่งดี
การบำรุงรักษา
เมื่อปลูกได้ 2 อาทิตย์ ใส่ปุ๋ยผสมชนิดเม็ด เช่นปุ๋ยไนโตรฟอสก้า เม็ดสีฟ้า สูตร 12-12-17-2 หรือปุ๋ยเม็ดชนิดอื่น ๆ ก็ได้ ใส่ประมาณ 1 ช้อนแกงรอบโคนต้นให้ห่างโคนต้นประมาณ 4-6 นิ้ว พรวนดินกลบ รดน้ำเพื่อให้ปุ๋ยละลาย ข้อควรระวังคืออย่าให้ปุ๋ยที่ใส่ถูกโคนต้นหรือถูกใบจะทำให้ต้นหรือใบเน่าได้ ปุ๋ยเม็ดใส่เดือนละครั้ง ถ้ากอใหญ่ขึ้นก็เพิ่มจำนวนปุ๋ยขึ้นตามขนาดของกอ
โรคและแมลงศัตรูพืช
แมลงที่เป็นอันตรายต่อต้นและดอกพุทธรักษา
ก็คือ
1. เพลี้ยไฟ (Thrip)
2. ตั๊กแตน (Loeust)
3. พวกแมลงปีกแข็งจำพวกด้วงตัวเล็ก เช่นเดียวกับที่กินดอกและใบกุหลาบ
4. หนอนปลวก (Round worm)
นอกจากแมลงแล้ว ก็ยังมีนกกระจอกชอบจิกกินดอกอ่อน และกลีบดอกในที่บางแห่ง
การป้องกัน และกำจัด
ใช้ยาโฟลิคอล E 605 หรือเซฟวิน 85 ผสม น้ำฉีดทุก ๆ 7 วันจนกว่าจะหาย ภายหลังจากนี้ ฉีด 15 วันครั้ง
โรค มีพวกโรคใบจุด จะเป็นทั้งที่ใบและกาบของใบ มักเกิดขึ้นในขณะที่อากาศมีความชื้นสูง และน้ำที่ใช้รดเป็นน้ำเน่าเสีย นอกจากนี้ต้นและกอเบียดกันแน่นเกินไป แสงแดดส่องไม่ทั่วถึงการแก้ไขต้องตัดต้นแก่เเละใบที่หนาทึบออกเสียบ้าง แล้วฉีดยาพวกแคปแทน หรือออร์โธ่ไซด์ ก็ได้ หรืออาจจะใช้ยาฆ่าเชื้อราชนิดอื่น ๆ ที่มีขายอยู่ทั่ว ๆ ไปก็ได้ การฉีดใช้ผสมกับยาฆ่าแมลงฉีดในคราวเดียวกัน
การปรับปรุงพันธุ์พุทธรักษา
1. การปลูกและคัดเลือกพันธุ์จากต้นที่ดี และแข็งแรงผิดกว่าต้นอื่น ๆ
2. การผสมพันธุ์
การผสมพันธุ์
เป็นวิธีที่ทำให้เราได้พืชพันธุ์ใหม่แน่นอนกว่า และเป็นการประหยัดเวลา เพราะสามารถที่จะคัดเลือกต้นพ่อพันธุ์และต้นแม่พันธุ์ เฉพาะที่เราเห็นและทดสอบว่าดีแล้วมาผสมพันธุ์ ดังนั้นต้นถูกผสมที่ได้ใหม่ ย่อมมีเปอร์เซ็นต์ดีมากกว่า ถ้าเราจะรอให้ผสมกันเองตามธรรมชาติ อาจกินเวลาหลาย ๆ ปี หรือหลาย ๆ สิบปีก็เป็นได้ เราจะเห็นได้จากพวกไม้ผลขึ้นต้น ในช่วงระยะเวลา 20 ปี จะมีพันธุ์ดีใหม่ ๆ เกิดขึ้นสักพันธุ์หนึ่งก็แสนยาก ที่เป็นเช่นนี้เพราะต้นพ่อ พันธุ์และต้นแม่พันธุ์ดีมักจะอยู่ห่างไกลกัน และปัจจุบันเราก็ไม่นิยมปลูกไม่ผลโดยใช้เมล็ด มักจะปลูกโดยใช้กิ่งต่อหรือกิ่งตอนมากกว่า ดังนั้น ไม้ผลพันธุ์ใหม่ ๆ จึงไม่เกิดขึ้น
ต้นพุทธรักษาก็เช่นเดียวกัน ถ้าเราต้องการให้ได้พันธุ์ที่ดีก็ต้องทำการผสมพันธุ์ โดยคัดเลือกต้นพันธุ์พ่อและต้นพันธุ์แม่ที่ดีมาผสมพันธุ์กัน
เครื่องมือ เครื่องใช้ ในการผสมพันธุ์พุทธรักษา
1. ปากคีบเล็ก ๆ 1 อัน
2. พู่กันเล็ก ๆ หรืออาจใช้ไม้จิ้มฟันแทน
3. ถุงกระดาษคลุมช่อดอก ใช้กระดาษลอกลายมาพับเป็นถุงคลุม
4. เข็มหมุดกลัดถุงคลุมเกสร
5. ปากกาหมึกแห้งหรือดินสอสีเขียนป้าย
6. ป้ายกระดาษแขวนบอกชื่อพ่อชื่อแม่ที่ทำการผสมพันธุ์
7. เกสรตัวผู้ที่จะใช้เป็นพ่อในการผสมพันธุ์ การเลือกต้นแม่ต้องเลือกต้นที่ติดเมล็ดง่ายโดยธรรมชาติเป็นหลัก ต้นที่ติดเมล็ดยากไม่ควรใช้เป็นต้นแม่ เพราะจะทำให้เสียเวลา
เมื่อเลือกต้นแม่ได้แล้ว ต้องเลือกช่อดอกที่สมบูรณ์ดอกยังไม่บาน ธรรมดาดอกพุทธรักษา จะบานทะยอยกันทุกวัน ดอกที่มีสีสดจะเป็นดอกที่บานวันนี้ ส่วนดอกที่มีสีซีด หรือถ้าเป็นสีแดงก็จะคล้ำ เป็นดอกที่บานเมื่อวาน ส่วนดอกที่กำลังจะบานพรุ่งนี้ เราต้องดูดอกที่เล็กถัดไป คือดอกที่จะบานมะรืนนี้ ที่ต้องเลือกดอกที่บานมะรืนนี้ก็เพราะดอกที่จะบานพรุ่งนี้คือดอกที่กำลัง แย้มวันนี้นั้น เกสรตัวผู้จะแตกออกจากอับแล้ว และอาจจะผสมตัวเองแล้ว
เด็ดดอกที่บาน และดอกที่แย้มออกทิ้ง เหลือดอกที่เล็กกว่าดอกที่แย้มไว้ 3 ดอก ดอกที่เล็กกว่านั้นเด็ดออกให้หมด
ต่อจากนั้นก็ใช้มือและปากคีบค่อย ๆ แหวกกลีบดอก เพื่อให้เห็นอับเกสรตัวผู้ เมื่อเห็นแล้วใช้ปากคีบจับออกทั้งอับ ทำเช่นนี้ทุกดอก แล้วเอาถุงกระดาษที่เตรียมคลุมไว้ วันรุ่งขึ้นจึงจะนำเกสรตัวผู้มาผสม โดยการเปิดถุงกระดาษ ใช้พู่กันหรือปลายไม้จิ้มฟันแตะเกสรตัวผู้ที่เราจะใช้เป็นพ่อจากดอกที่เริ่ม จะแย้มไปแตะปลายเกสรตัวเมีย ซึ่งมีลักษณะยืดยาวอยู่ตรงกลางอันเดียว เมื่อแตะเสร็จแล้วทุกดอกก็ใช้ถุงกระดาษคลุมช่อดอกไว้ และใช้เข็มหมุดกลัด เพื่อไม่ให้ถุงหลุด เขียนชื่อพ่อชื่อแม่ วันที่ทำการผสม จำนวนดอกที่ผสม ไว้ที่ป้ายผูกติดไว้ที่ช่อดอกที่ทำการผสม เช่น
แม่ ( ) ชมพูอ่อนช่อดก
พ่อ ( ) แดงเข้มฟอร์มดี
20/12/2521
จำนวน 3 ดอก
เวลาที่ทำการผสมพันธุ์ พุทธรักษาแปลกและมีคุณสมบัติดีกว่าดอกไม้ชนิดอื่นที่ทำการผสมได้ทุกเวลา ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ซึ่งต้นไม้ส่วนมากมักจะผสมได้เฉพาะตอนเช้าเท่านั้น หรือบางอย่างก็ผสมได้เฉพาะตอนเย็น เช่น บวบเหลี่ยม เพราะดอกบานตอนเย็น
นับจากวันที่ผสมดอกพุทธรักษาประมาณ 5-7 วัน เปิดถุงคลุมออกดู ถ้าผสมติดผลก็จะเริ่มพองตัวขึ้น แต่ถ้าผสมไม่ติด ผลเล็กที่ติดอยู่ในโคนช่อดอกที่ผสมก็จะร่วงไปหมดเมื่อผสมติด นับเวลาจากวันผสมถึงวันที่ผลแก่จะกินเวลา 21-24 วัน นำเมล็ดที่ได้ไปเพาะในภาชนะใช้ ดินร่วน 1 ส่วน ทราย 1 ส่วน ใบไม้ผุ 1 ส่วน หรืออาจใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอกแทนใบไม้ผุก็ได้ ผสมให้เข้ากัน เกลี่ยหน้าดินให้เรียบ โรยเมล็ดลงไปกลบดินสูงประมาณ 1 นิ้ว รดนำให้ ชุ่ม เก็บไว้ในที่รำไรประมาณ 7-14 วัน เมล็ดจะขึ้นหมด เมื่อมีใบจริงประมาณ 4-5 ใบ ย้าย ลงกระถางหรือลงแปลง และอย่าลืมปักป้ายบอกชื่อลูกผสมด้วย ถ้าทำหลายชุดก็ต้องเขียนบอก ไว้ เช่น ชุดที่ 1 : ต้น 1 ต้น 2 ต้น 3… แล้ว แต่ว่าจะมีกี่ต้น เพราะแต่ละต้นจะให้ดอกไม่เหมือนกัน อาจดีหรือเลวก็ได้ ถ้าเราไม่ติดป้ายไว้เราจะไม่รู้เลยว่าเป็นลูกผสมต้นไหน เพราะดอกที่ออกมาอาจไปมีสีคล้ายกับชุดอื่นที่เราทำก็ได้ จากวันเพาะถึงวันออกดอกกินเวลาประมาณ 4-6 เดือน เลือกเฉพาะต้นที่ดีเท่านั้นไว้ขยายพันธุ์ โดยแยกหน่อ เราก็จะได้พันธุ์ใหม่แล้ว ถ้าต้องการจำนวนมากก็ขยายพันธุ์จากหน่อออกไปอีก แต่ถ้ายังไม่ดีเท่าที่เราต้องการก็ต้องผสมกับต้น ที่ออกดอกมาแล้วนี้อีก 1 ชั่ว 2 ชั่ว หรือ 3 ชั่ว ลูกที่ได้อาจดีขึ้น
ประโยชน์
1. ใช้ปลูกประดับบ้าน หรือสถานที่ต่าง ๆ เพื่อความสวยงาม
2. ใช้ตัดดอกปักแจกันได้ เช่นเดียวกับไม้ ดอกอื่น ๆ
3. ใช้ในพิธีมงคลต่าง ๆ ใช้ทั้งใบและดอก
4. พุทธรักษาบางพันธุ์ ในต่างประเทศใช้แป้งที่ได้จากหัวทำอาหารเลี้ยงทารก ส่วนในบ้านเราใช้หัวหรือเง่าต้มกินเช่นเดียวกับหัวเผือก หรือหัวมัน
5. ใบใช้ห่อของ
6. เง่าใช้เป็นสมุนไพร สำหรับเข้าตัวยาแผนโบราณ
7. เมล็ดพุทธรักษามีลักษณะกลมสีดำ และแข็ง ในอินเดียตะวันตกใช้เป็นลูกกระสุนล่าสัตว์
8. เมล็ดดำกลมใช้เป็นลูกประคำประดับกาย
ที่มา www.thaikasetsart.com/การปลูกพุทธรักษา/
พุทธรักษาแคระ สีเหลือง(พันธุ์ใหม่)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Dwarf Canna generalis
ตระกูล CANNACEAE
ชื่อทางการตลาด พุทธรักษาแคระสีเหลือง(พันธุ์ใหม่)นีออน
ลักษณะทั่วไปของพุทรักษาแคระ
พุทธรักษาแคระเป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อนอวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-30 เซนติเมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย ลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้น โตประมาณ 0.5-1.5 เซนติเมตร ใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลม ขอบใบเรียบ กลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ้งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อน สลับกัน ขนาดใบกว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น ช่อดอกยาวประมาณ 4-8 เซนติเมตร ประกอบด้วยดอก 8-10 ดอก และมีกลีบดอกบางนิ่ม ขนาดของดอกและสีสรรแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์
การเป็นมงคลต้นพุทธรักษา
คนโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นพุทธรักษาไว้ประจำบ้านจะช่วยคุ้มครอง ป้องกันอันตรายแก่บ้านและผู้อาศัยได้ เพราะพุทธรักษาเป็นพรรณไม้ที่คนโบราณเชื่อว่า มีพระเจ้าคุ้มครองรักษาให้มีความสงบสุข คือเป็นไม้มงคลนั่นเอง
ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูกพุทรักษา
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นพุทธรักษาไว้ทางทิศตะวันตก ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เอาประโยชน์ทั่วไปทางดอกให้ปลูกในวันพุธ
ติดต่อชมสวนพลการ์เด้นได้ที่ 085-121-4994, 085-165-9168 เวลา 08:00 ถึง 18:00 น. ได้ทุกวันครับ !!!
PHON GARDEN
65/18, Moo.4,
Bang Kruai-Jongtanom Road,
Maha Sawat sub-district,
Bang Kruai district,
Nonthaburi province 11130, Thailand.
Mobile : 66(85) 121 4994, 66(85) 165 9168.
Facebook : http://www.facebook.com/pages/พุทธรักษา/335298213260373
E-Mail : phongarden@gmail.com
วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556
พุทธรักษาแคระ
พุทธรักษาแคระ
ชื่อสามัญ Dwarf Canna, Indian shoot, Canna Lily
ชื่อวิทยาศาสตร์ Dwarf Canna generalis
ตระกูล CANNACEAE
ลักษณะทั่วไปพุทรักษาแคระ
พุทธรักษาแคระเป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อนอวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-30 เซนติเมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย ลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้น โตประมาณ 1-3 เซนติเมตร ใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลม ขอบใบเรียบ กลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ้งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อน สลับกัน ขนาดใบกว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น ช่อดอกยาวประมาณ 4-8 เซนติเมตร ประกอบด้วยดอก 8-10 ดอก และมีกลีบดอกบางนิ่ม ขนาดของดอกและสีสรรแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์
การเป็นมงคลต้นพุทธรักษา
คนโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นพุทธรักษาไว้ประจำบ้านจะช่วยคุ้มครอง ป้องกันอันตรายแก่บ้านและผู้อาศัยได้ เพราะพุทธรักษาเป็นพรรณไม้ที่คนโบราณเชื่อว่า มีพระเจ้าคุ้มครองรักษาให้มีความสงบสุข คือเป็นไม้มงคลนั่นเอง
ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูกพุทรักษา
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นพุทธรักษาไว้ทางทิศตะวันตก ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เอาประโยชน์ทั่วไปทางดอกให้ปลูกในวันพุธ
PHON GARDEN
65/18, Moo.4,
Bang Kruai-Jongtanom Road,
Maha Sawat sub-district,
Bang Kruai district,
Nonthaburi province 11130, Thailand.
Mobile : 66(85) 121 4994, 66(85) 165 9168.
E-Mail : phongarden@gmail.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)